การนอนทำให้กล้ามเนื้อและอวัยวะทุกส่วนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ พร้อมสำหรับการทำงานในวันต่อไป เมื่อนอนน้อยอาจส่งผลให้ทำงานผิดพลาด ทำงานได้น้อยลง คุณภาพงานต่ำกว่าปกติ และมีงานวิจัยในต่างประเทศ พบว่า คนที่นอนน้อยกว่า 4 ชม. หรือนอนมากกว่า 10 ชม. ต่อคืน เป็นประจำ อาจมีอายุสั้นกว่าคนที่นอนหลับปกติ คนที่นอนไม่เพียงพอนานๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดเมื่ออายุมากขึ้น และการนอนระหว่าง 21. 00-22.00 น. จะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะโกรธ ฮอร์โมน ( growth hormones) หลั่งออกมาอย่างเต็มที่ในช่วง 22.00-24.00 น. ช่วยซ่อมสร้างเซลล์ในร่างกาย และควรนอนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ต่อวัน
นอนหลับท่าไหนดีสุด

- นอนหงาย ควรใช้หมอนหนุนหัวแบบต่ำเพื่อให้ต้นคออยู่แนวเดียวกับลำตัว ป้องกันการปวดคอจากนอนคอพับหรือนอนเงยคอมากเกินไป แต่ท่านี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคปอดและโรคหัวใจ เพราะกล้ามเนื้อกระบังลมจะกดทับปอดทำให้หายใจไม่สะดวก หัวใจทำงานลำบากขึ้น การนอนหงาย ยังอาจทำให้ผู้มีอาการปวดหลังมีอาการรุนแรงขึ้นด้วย
- นอนตะแคง การนอนตะแคงขวาช่วยให้หัวใจทำงานสะดวก และอาหารที่ค้างในกระเพาะจะถูกบีบลงลำไส้เล็กได้ดี ช่วยลดอาการปวดหลังได้ทางหนึ่ง แต่การนอนตะแคงซ้ายอาจทำให้เสียดลิ้นปี่ เพราะอาหารย่อยไม่หมดและค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร หญิงตั้งครรภ์ควรนอนตะแคงเพื่อไม่ให้มดลูกไปกดทับกระดูกสันหลังและเส้นเลือดแดงใหญ่กลางลำตัว
- นอนคว่ำหน้า อาจทำให้หายใจติดขัดและปวดต้นคอ เพราะคอแอ่นมาทางด้านหลังหรือบิดไปด้านใดด้านหนึ่งเป็นเวลานานๆ ถ้าต้องนอนคว่ำหน้าควรใช้หมอนรองใต้หน้าอกเพื่อไม่ให้ปวดเมื่อยต้นคอ
หมอนแบบไหนดีสุด
การหนุนหมอนที่ไม่มีคุณภาพนานๆ อาจทำให้กระดูกต้นคอ กดทับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง หรือเกิดเป็นลิ่มเลือดอุดตัน หากลิ่มเลือดขึ้นสมองอาจกลายเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้ คุณจึงควรสังเกตอยู่เสมอว่ามีอาการปวดช่วงต้นคอหลังจากตื่นนอนด้วยหรือไม่ หมอนที่ดีควรนอนแล้วรับกับกระดูกต้นคอได้พอดี เสมอเป็นระนาบเดียวกับลำตัว นอนแล้วคอไม่แหงนหรือพับ วัสดุที่ใช้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
- ใยสังเคราะห์ มีทั้งแบบนุ่มฟูและแน่นขึ้นอยู่กับความชอบ ข้อดีคือมีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามรูปศีรษะ คืนรูปและระบายอากาศได้ดี ข้อจำกัด คือ เสื่อมสภาพเร็ว อายุใช้งานไม่คงทน
- โฟมลาเทกซ์ แข็งและแน่นมากกว่าหมอนประเภทอื่นๆ ข้อดีคือ คงทน อายุการใช้งานนาน ข้อจำกัดคือ การระบายอากาศไม่ดี หากเลือกขนาดไม่เหมาะกับศีรษะอาจนอนแล้วปวดคอได้
- ยางพารา มีทั้งแบบแข็งและแบบนิ่ม ข้อดีคือ คงทน อายุการใช้งานนาน ข้อจำกัดคือ การระบายอากาศไม่ดี
- ขนเป็ด มีความนุ่มฟูเป็นพิเศษ เหมาะกับผู้ที่ชอบหมอนนุ่มมากๆ มีข้อจำกัด เรื่องการทำความสะอาด (ซักไม่ได้) และราคาค่อนข้างสูง
- นุ่น เป็นวัสดุที่ดีในการทำเครื่องนอน เพราะสามารถปรับให้รับกับสรีระของผู้นอนได้ และราคาไม่แพง แต่มีข้อจำกัด คือ การทำความสะอาดยากและอาจมีเศษนุ่นหลุดเป็นละออง ออกมาจึงไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
สาระน่ารู้เกี่ยวกับการนอนหลับ
การนอนหลับเป็นสถานะที่เกิดซ้ำตามธรรมชาติ โดยแสดงลักษณะที่มีสติสัมปชัญญะลดลงหรือไม่มีเลย กิจกรรมรับความรู้สึกที่ค่อนข้างถูกงด และการขาดกิจกรรมของกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใต้อำนาจจิตใจแทบทั้งหมด การนอนหลับต่างจากความตื่นตัวเงียบตรงที่มีความสามารถสนองต่อสิ่งเร้าลดลง และสามารถผันกลับได้ง่ายกว่าอยู่ในสถานะจำศีล
แต่ละช่วงอายุต้องการการนอนหลับต่อวันไม่เท่ากัน เด็กต้องการนอนหลับมากกว่าเพื่อให้ร่างกายพัฒนาและทำหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม ทารกเกิดใหม่ต้องการนอนหลับถึง 18 ชั่วโมง และมีอัตราลดลงในวัยเด็ก
อายุหรือสภาวะ
|
ความต้องการการนอนหลับ
|
ทารกเกิดใหม่ (0-2 เดือน)
|
12-18 ชั่วโมง
|
ทารก (3–11 เดือน)
|
14-15 ชั่วโมง
|
เด็กวัยหัดเดิน (1–3 ขวบ)
|
12-14 ชั่วโมง
|
เด็กก่อนวัยเรียน (3–5 ขวบ)
|
11-13 ชั่วโมง
|
เด็กวัยเรียน (5–10 ปี)
|
10-11 ชั่วโมง
|
วัยรุ่น (10-17 ปี)
|
8.5-9.25 ชั่วโมง
|
ผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ
|
7-9 ชั่วโมง
|
สตรีมีครรภ์
|
8 ชั่วโมงขึ้นไป
|
อาการนอนไม่หลับ (Insomnia)
1. นอนไม่หลับชั่วคราว (Transient insomnia)
สาเหตุเพราะมี สถานการณ์
บางอย่างที่ทำให้ต้องคิดกังวลหรือปรับตัว ในกรณีนี้อาจใช้ยาคลายกังวล
ยานอนหลับช่วยให้หลับสั้นๆ ได้ มักหลับได้ปกติใน 2-3 วัน
2.
นอนไม่หลับเป็นระยะๆ (Intermittent
insomnia)
อาการต่อเนื่องจากกลุ่มที่ 1 เนื่องจากสถานการณ์ต้นเหตุยังคอยกระตุ้นเป็นระยะๆ
ทำให้มีอาการ ไม่หลับที่เกิดขึ้นซ้ำๆ บ่อยๆเป็นระยะๆ
3.
นอนไม่หลับเรื้อรัง (chronic
insomnia)
มีอาการนอนไม่หลับเป็นประจำ ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 3 สัปดาห์
มีสาเหตุได้หลายอย่าง ได้แก่ การเจ็บป่วยทางกายต่างๆ
เคล็ดลับในการตื่นนอน
1.ตั้งนาฬิกาปลุกตอนนาทีสุดท้ายที่ต้องตื่น
เพื่อจะได้ไม่มีเวลาหลับต่อ หรือนอนแช่อยู่บนเตียง
อันเป็นต้นเหตุทำให้หลับไปอีกรอบ
และการหลับหลังจากนาฬิกาปลุกแล้วจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกแย่มากขึ้น
2.หลังจากลุกนั่งแล้วให้แกว่งขาไปมาอยู่ข้างๆ
เตียงสักพัก ร่างกายจะได้ตื่นเต็มที่
3.หายใจลึกๆ ยาวๆ สัก 3-4 ครั้ง
เพื่อปรับสภาพร่างกายให้กลับสู่โลกของความเป็นจริง
4. เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการออกกำลังกาย
เพื่อเติมพลังร่างกายและจิตใจของคุณ